คู่มือการเทรดกับ Exness ในประเทศไทย

การเริ่มต้นใช้งาน Exness ในประเทศไทย

บริษัทของเราให้บริการแพลตฟอร์มการเทรดที่ครอบคลุมทั้ง Forex และ CFD สำหรับนักเทรดในประเทศไทย การเรียนรู้วิธีการเทรดกับเราเริ่มต้นจากการสมัครสมาชิกและยืนยันตัวตน กระบวนการนี้ใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงสำหรับการอนุมัติ เราปฏิบัติตามกฎหมายทางการเงินของประเทศไทยภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย

การลงทะเบียนเริ่มต้นผ่านเว็บไซต์หลักหรือแอปพลิเคชันมือถือ ผู้ใช้งานต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวรวมถึงชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และรหัสผ่าน การเลือกประเทศไทยเป็นที่อยู่จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง

ขั้นตอนการสมัครสมาชิก

กระบวนการสมัครสมาชิกประกอบด้วยการกรอกแบบฟอร์มออนไลน์และการยืนยันตัวตน เอกสารที่จำเป็นรวมถึงบัตรประชาชน พาสปอร์ต หรือใบขับขี่ การยืนยันที่อยู่ใช้ใบแจ้งหนี้สาธารณูปโภคหรือใบแจ้งยอดธนาคารที่ออกไม่เกิน 3 เดือน

ประเภทบัญชีการเทรดที่เราเสนอ

เราให้บริการบัญชีการเทรดหลายประเภทเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน บัญชี Standard เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยสเปรดแบบลื่น บัญชี Pro มีสเปรดที่แคบกว่าและเหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ บัญชี Raw Spread เสนอสเปรดที่แคบที่สุดแต่มีค่าคอมมิชชั่น

การเลือกประเภทบัญชีขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและเงินทุนเริ่มต้น เงินฝากขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและวิธีการชำระเงิน เราสนับสนุนการฝากเงินผ่านธนาคารไทย บัตรเครดิต กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และสกุลเงินดิจิทัล

คุณสมบัติของบัญชีแต่ละประเภท

บัญชี Standard มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.3 pips สำหรับคู่สกุลเงิน EUR/USD ไม่มีค่าคอมมิชชั่น และรองรับเลเวอเรจสูงสุด 1:2000 บัญชี Pro เสนอสเปรดเริ่มต้นที่ 0.1 pips มีค่าคอมมิชชั่นต่ำ และเหมาะสำหรับการเทรดแบบสกัลปิ้ง บัญชี Raw Spread มีสเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น 3.5 ดอลลาร์ต่อล็อต

การฝากเงินและถอนเงินในประเทศไทย

ระบบการเงินของเราสนับสนุนวิธีการชำระเงินหลากหลายสำหรับผู้ใช้งานในประเทศไทย ธนาคารท้องถิ่นที่รองรับรวมถึงธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ การฝากเงินผ่านธนาคารใช้เวลา 1-3 วันทำการ การถอนเงินใช้เวลา 1-5 วันทำการขึ้นอยู่กับวิธีการ

บัตรเครดิตและเดบิตที่รองรับรวมถึง Visa และ Mastercard การทำรายการเสร็จสิ้นทันทีสำหรับการฝากเงิน การถอนเงินกลับไปยังบัตรใช้เวลา 3-5 วันทำการ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์เช่น Skrill และ Neteller ประมวลผลรายการภายใน 24 ชั่วโมง

รายการฝากและถอนเงินหลักที่เราสนับสนุน:

• ธนาคารไทย (Bangkok Bank, Kasikorn Bank, SCB)
• บัตรเครดิต/เดบิต (Visa, Mastercard)
• กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Skrill, Neteller, Perfect Money)
• สกุลเงินดิจิทัล (Bitcoin, Ethereum, Tether)
• ระบบชำระเงินท้องถิ่น (TrueMoney, AirPay)

การทำรายการทางการเงินทั้งหมดเข้ารหัสด้วย SSL 256-bit เพื่อความปลอดภัย เราไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากเงิน ค่าธรรมเนียมการถอนเงินขึ้นอยู่กับวิธีการที่เลือก

แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือวิเคราะห์

เราเสนอแพลตฟอร์มการเทรดผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชันมือถือ และซอฟต์แวร์เดสก์ท็อป แพลตฟอร์มเว็บใช้งานได้บนเบราว์เซอร์ทุกประเภทโดยไม่ต้องดาวน์โหลด แอปมือถือรองรับระบบ Android 5.0 ขึ้นไปและ iOS 11.0 ขึ้นไป ซอฟต์แวร์เดสก์ท็อปเข้ากันได้กับ Windows 7 ขึ้นไปและ macOS 10.12 ขึ้นไป

เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิครวมถึงตัวบ่งชี้ 50+ ประเภท แผนภูมิแบบ candlestick, line, และ bar การวาดเส้นแนวโน้มและรูปแบบต่างๆ ข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์มีความล่าช้าน้อยกว่า 100 มิลลิวินาที การประมวลผลคำสั่งเฉลี่ย 0.1 วินาที

การตั้งค่าแพลตฟอร์มสำหรับผู้ใช้งานไทย

การปรับแต่งแพลตฟอร์มเริ่มต้นจากการเลือกภาษาไทยและเขตเวลา GMT+7 การตั้งค่าสกุลเงินบัญชีเป็นดอลลาร์สหรัฐหรือบาทไทย การเลือกธีมสีและรูปแบบแผนภูมิตามความชอบ ข้อมูลข่าวสารและปฏิทินเศรษฐกิจแสดงในเวลาท้องถิ่น

วิธีการเทรด Forex และ CFD

การเทรด Forex กับเราครอบคลุมคู่สกุลเงินหลัก 40+ คู่ รวมถึง EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY, และ USD/THB สเปรดเริ่มต้นที่ 0.0 pips สำหรับบัญชี Raw Spread เลเวอเรจสูงสุด 1:2000 สำหรับคู่สกุลเงินหลัก การเทรด CFD ครอบคลุมดัชนีหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นรายตัว และสกุลเงินดิจิทัล

ขั้นตอนการเปิดคำสั่งซื้อขายเริ่มจากการเลือกเครื่องมือการเทรดใน Market Watch การวิเคราะห์แผนภูมิราคา การกำหนดขนาดล็อต การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit การยืนยันคำสั่งผ่านปุ่ม Buy หรือ Sell ระบบประมวลผลคำสั่งแบบ STP (Straight Through Processing) โดยไม่มีการแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่

เครื่องมือการเทรดที่หลากหลาย

เครื่องมือ Forex ประกอบด้วยคู่สกุลเงินหลัก รอง และแปลกใหม่ ค่าสวอปคำนวณตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง การเทรดเปิด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ เครื่องมือ CFD รวมถึงดัชนี S&P 500, NASDAQ, DAX สินค้าโภคภัณฑ์เช่นทอง น้ำมัน และเงิน หุ้นจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐและยุโรป

สกุลเงินดิจิทัลที่รองรับ:

• Bitcoin (BTC/USD)
• Ethereum (ETH/USD)
• Litecoin (LTC/USD)
• Ripple (XRP/USD)
• Bitcoin Cash (BCH/USD)

การเทรดสกุลเงินดิจิทัลเปิดให้บริการ 24/7 มีความผันผวนสูงและเหมาะสำหรับนักเทรดที่ชื่นชอบความเสี่ยง เลเวอเรจสำหรับ crypto CFD จำกัดที่ 1:400 เพื่อจัดการความเสี่ยง

การจัดการความเสี่ยงและเครื่องมือป้องกัน

ระบบจัดการความเสี่ยงของเราใช้เทคโนโลยี Negative Balance Protection ป้องกันไม่ให้บัญชีติดลบ Stop Out Level ตั้งไว้ที่ 0% สำหรับบัญชี Standard และ Pro Margin Call เกิดขึ้นที่ระดับ 60% ของ Margin Level การปิดคำสั่งอัตโนมัติเมื่อ Equity ต่ำกว่า Margin ที่ต้องการ

เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงรวมถึง Stop Loss, Take Profit, Trailing Stop และ Pending Orders ระบบ Stop Loss ปิดคำสั่งอัตโนมัติเมื่อขาดทุนถึงระดับที่กำหนด Take Profit ปิดคำสั่งเมื่อกำไรถึงเป้าหมาย Trailing Stop ปรับระดับ Stop Loss ตามทิศทางที่กำไร

การตั้งค่าเครื่องมือป้องกันเริ่มจากการคลิกขวาที่คำสั่งเปิดอยู่ เลือก Modify Order กำหนดค่า Stop Loss และ Take Profit เป็นจุด (pips) หรือราคาเฉพาะ การยืนยันการเปลี่ยนแปลงผ่านปุ่ม Modify ระบบบันทึกการตั้งค่าอัตโนมัติ

การคำนวณ Margin และ Leverage

การคำนวณ Margin ใช้สูตร: Margin = (ขนาดคำสั่ง × ราคาเปิด) ÷ Leverage เลเวอเรจ 1:100 หมายความว่าใช้เงินทุน 1% ของมูลค่าคำสั่ง เลเวอเรจ 1:500 ใช้เงินทุน 0.2% ของมูลค่าคำสั่ง การเลือกเลเวอเรจสูงเพิ่มโอกาสกำไรแต่เพิ่มความเสี่ยงด้วย

การวิเคราะห์ตลาดและข้อมูลข่าวสาร

เราจัดหาข้อมูลวิเคราะห์ตลาดรายวันผ่านแผนกวิจัยภายใน รายงานครอบคลุมการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานสำหรับเครื่องมือการเทรดหลัก ปฏิทินเศรษฐกิจแสดงเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อตลาด ข้อมูลข่าวสารอัปเดตแบบเรียลไทม์จากแหล่งข่าวทางการเงินชั้นนำ

การวิเคราะห์ทางเทคนิคใช้ตัวบ่งชี้เช่น Moving Average, RSI, MACD, Bollinger Bands และ Fibonacci Retracement รูปแบบแผนภูมิรวมถึง Head and Shoulders, Double Top/Bottom, Triangle Patterns การระบุแนวโน้มผ่านเส้น Support และ Resistance การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายและ Open Interest

ข้อมูลพื้นฐานครอบคลุมตัวเลขเศรษฐกิจ การประชุมธนาคารกลาง รายงานผลประกอบการบริษัท เหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อตลาดการเงิน การประเมินผลกระทบต่อสกุลเงินและสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ

เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง

แพลตฟอร์มมีเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูงรวมถึง Elliott Wave Analysis, Harmonic Patterns, Market Profile และ Volume Spread Analysis การใช้ Multiple Timeframe Analysis เพื่อยืนยันสัญญาณการซื้อขาย Correlation Matrix แสดงความสัมพันธ์ระหว่างเครื่องมือต่างๆ Heat Map แสดงการเคลื่อนไหวของตลาดในภาพรวม

การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะการเทรด

เราจัดหลักสูตรการเทรดออนไลน์สำหรับผู้เริ่มต้นและนักเทรดมืออาชีพ เนื้อหาครอบคลุมพื้นฐานการเทรด การวิเคราะห์ทางเทคนิค การจัดการความเสี่ยง และจิตวิทยาการเทรด วิดีโอสอนภาษาไทยมีให้เลือกชมมากกว่า 100 ตอน Webinar สดจัดขึ้นทุกสัปดาห์โดยผู้เชี่ยวชาญ

บัญชี Demo ให้เงินเสมือน 10,000 ดอลลาร์สำหรับฝึกฝน ข้อมูลราคาเหมือนบัญชีจริงแต่ไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน ระยะเวลาใช้งานไม่จำกัด สามารถรีเซ็ตยอดเงินได้ตลอดเวลา การเปลี่ยนจาก Demo เป็นบัญชีจริงทำได้ง่ายผ่านหน้าเว็บไซต์

วิธีการเทรดกับเราในประเทศไทยจึงเริ่มต้นได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นหรือมืออาชีพ ระบบและเครื่องมือของเราช่วยให้การเทรด Forex และ CFD เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ