Exness ประเทศไทย – แพลตฟอร์มการเทรด Forex และ CFD

บริการ Forex และ CFD Trading ของ Exness ในประเทศไทย

Exness ให้บริการเทรดทั้ง Forex และ CFD แก่นักลงทุนในประเทศไทย โดยเน้นการเข้าถึงตลาดการเงินทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มที่ทันสมัย เรามีคู่สกุลเงินมากกว่า 120 คู่ รวมถึงคู่เงินยอดนิยมอย่าง EUR/USD, GBP/USD และ USD/THB สำหรับ CFD เราเปิดให้เทรดดัชนีหุ้นสำคัญ เช่น S&P 500, FTSE 100 และ SET Index พร้อมสินค้าพลังงานและโลหะมีค่า เช่น ทองคำ น้ำมัน และเงิน การดำเนินการคำสั่งเร็วเฉลี่ย 0.1 วินาที ช่วยให้นักเทรดได้รับราคาที่แม่นยำและตอบสนองทันที

แพลตฟอร์มของ Exness รองรับการเทรดตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการตามเวลาประเทศไทย (GMT+7) นักเทรดสามารถเข้าถึงได้ผ่าน MetaTrader 4, MetaTrader 5 หรือแอปพลิเคชันบนมือถือ ระบบจัดการความเสี่ยงอัตโนมัติช่วยปกป้องเงินลงทุนผ่านฟังก์ชัน Stop Loss และ Take Profit

วิธีการสมัครบัญชีและเริ่มเทรดกับ Exness

การเปิดบัญชีกับ Exness ใช้เวลาสั้นเพียง 3-5 นาที ขั้นตอนเริ่มจากเข้าเว็บไซต์หลักของเราแล้วคลิก “เปิดบัญชีจริง” กรอกข้อมูลส่วนตัวที่จำเป็น เช่น ชื่อ-นามสกุล อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ และที่อยู่ในประเทศไทย รวบรวมเอกสารยืนยันตัวตน ได้แก่ บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง และหลักฐานที่อยู่ล่าสุดไม่เกิน 3 เดือน เช่น ใบแจ้งหนี้ไฟฟ้า ระบบจะตรวจสอบข้อมูลภายใน 24 ชั่วโมง

การเลือกประเภทบัญชีที่เหมาะสม

นักเทรดใหม่ควรเริ่มที่บัญชี Standard ที่ใช้เงินฝากขั้นต่ำเพียง $1 และสเปรดเริ่มต้น 0.3 pips สำหรับผู้มีประสบการณ์สามารถเลือกบัญชี Pro หรือ Zero ซึ่งมีสเปรดต่ำกว่าแต่เงินฝากเริ่มต้นสูงขึ้น บัญชี Zero มีสเปรด 0.0 pips แต่มีค่าคอมมิชชั่น $3.5 ต่อ lot สามารถเปลี่ยนแปลงประเภทบัญชีผ่าน Personal Area ได้ตลอดเวลา

การฝากเงินด้วยวิธีการต่างๆ

เราเปิดรับฝากเงินผ่านธนาคารไทยหลัก ได้แก่ กสิกรไทย กรุงเทพ และไทยพาณิชย์ การโอนผ่าน Internet Banking จะใช้เวลาราว 15-30 นาที ส่วนการฝากผ่าน e-Wallet เช่น TrueMoney และ Rabbit LINE Pay จะเข้าบัญชีภายใน 5-10 นาที บัตรเครดิต Visa และ MasterCard ที่ออกในประเทศไทยก็รองรับ โดยเงินจะเข้าทันที ไม่มีค่าธรรมเนียมจากเรา ฝากขั้นต่ำตั้งแต่ $10 ขึ้นไป

แพลตฟอร์มการเทรดและเครื่องมือวิเคราะห์

Exness ให้บริการ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับการเทรด Forex และ CFD พร้อมฟีเจอร์ครบถ้วนสำหรับวิเคราะห์เทคนิค นักเทรดสามารถใช้ Expert Advisors (EA) เพื่อเทรดอัตโนมัติและ Custom Indicators สำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก

แอปมือถือของเรารองรับระบบ iOS และ Android โดยสามารถดูกราฟแบบเรียลไทม์และจัดการคำสั่งได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์แจ้งเตือน Push Notification จะแจ้งเมื่อตลาดถึงระดับราคาที่ตั้งไว้หรือเมื่อคำสั่งถูกปิด ระบบซิงค์ข้อมูลระหว่างเว็บไซต์ แอปมือถือ และโปรแกรมเดสก์ท็อปช่วยให้นักเทรดทำงานได้ต่อเนื่องไม่สะดุด

เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคขั้นสูง

เรามีตัวชี้วัดทางเทคนิคมากกว่า 50 ตัว เช่น Moving Averages, RSI, MACD และ Bollinger Bands นักเทรดสามารถปรับแต่งพารามิเตอร์และวิเคราะห์หลายกรอบเวลา (Multi-timeframe Analysis) เพื่อประเมินแนวโน้มระยะสั้นและยาว

Drawing Tools เช่น Trend Lines, Support/Resistance, Fibonacci Retracements และ Chart Patterns ช่วยให้นักเทรดกำหนดจุดเข้าออกตลาดได้แม่นยำ การวิเคราะห์ทั้งหมดจะถูกบันทึกในโปรไฟล์ส่วนตัวของผู้ใช้

การใช้งาน Expert Advisors และ Automated Trading

การติดตั้ง EA ทำได้ผ่าน MetaTrader โดยลากไฟล์ .ex4 หรือ .mq4 ลงในโฟลเดอร์ Experts ระบบ Strategy Tester ช่วยทดสอบ EA ด้วยข้อมูลราคาย้อนหลัง นักเทรดสามารถปรับแต่งพารามิเตอร์และตรวจสอบผลกำไร-ขาดทุนก่อนใช้งานจริง

บริการ VPS ของเราช่วยให้ EA ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ลดปัญหาการตัดการเชื่อมต่อและประสิทธิภาพต่ำ

การจัดการความเสี่ยงและการคุ้มครองเงินลงทุน

Exness มีระบบ Negative Balance Protection ป้องกันไม่ให้ยอดบัญชีติดลบในกรณีราคาผันผวนสูง ระบบจะปิดออเดอร์อัตโนมัติเมื่อยอดเงินใกล้หมด นักเทรดจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่สูญเสียเงินเกินทุนที่ฝากไว้

เครื่องมือ Stop Loss และ Take Profit ช่วยควบคุมความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การตั้ง Stop Loss ที่ประมาณ 2-3% ของเงินทุนต่อออเดอร์และตั้ง Take Profit ที่อัตราส่วน Risk:Reward อย่างน้อย 1:2 จะช่วยรักษาสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน

เงินของลูกค้าจะถูกเก็บแยกจากเงินบริษัทในธนาคารชั้นนำของไทย เรายังได้รับการคุ้มครองประกันภัยจาก Lloyd’s of London สูงสุดถึง €20,000,000 พร้อมระบบ SSL Encryption 256-bit ที่ปกป้องข้อมูลส่วนตัวและธุรกรรม

• ฟีเจอร์ Stop Loss อัตโนมัติลดการขาดทุน
• Take Profit ปิดออเดอร์เมื่อถึงเป้าหมายกำไร
• Trailing Stop ปรับตามแนวโน้มราคาที่เปลี่ยนแปลง
• เครื่องมือคำนวณขนาดออเดอร์ (Position Size Calculator)
• วิเคราะห์อัตราความเสี่ยงและผลตอบแทน (Risk/Reward Ratio)

การตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit อย่างมีประสิทธิภาพ

การกำหนด Stop Loss ควรวัดระยะโดยใช้ Average True Range (ATR) ตั้งให้ห่างจากราคาปัจจุบันประมาณ 1.5-2 เท่าของ ATR ใช้ระดับ Support และ Resistance เป็นจุดอ้างอิงช่วยลดความเสี่ยง

สำหรับ Take Profit ควรตั้งบริเวณ Fibonacci Extensions หรือจุดสูง-ต่ำก่อนหน้า การใช้หลายระดับ Take Profit ช่วยให้นักเทรดสามารถล็อกกำไรบางส่วนและปล่อยให้ออเดอร์ที่เหลือทำกำไรต่อได้

ประเภทออเดอร์และกลยุทธ์การเทรด

Exness มีออเดอร์ Market Execution ที่ช่วยให้นักเทรดเข้าสู่ตลาดทันทีในราคาปัจจุบัน เหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้นที่ต้องการความรวดเร็ว ส่วน Pending Orders ประกอบด้วย Buy Stop, Sell Stop, Buy Limit และ Sell Limit สำหรับตั้งราคาที่ต้องการล่วงหน้า

กลยุทธ์การเทรดที่แพร่หลายได้แก่ Scalping ที่ใช้เวลาสั้น 1-5 นาที เหมาะกับคู่สกุลเงินสเปรดต่ำ เช่น EUR/USD Day Trading เป็นการถือครองออเดอร์ภายในวันเดียวโดยไม่ข้ามคืน ส่วน Swing Trading ใช้เวลาหลายวันจนถึงสัปดาห์ เหมาะกับการวิเคราะห์แนวโน้มระยะกลาง

การเทรด Forex กับคู่สกุลเงินหลัก

EUR/USD เป็นคู่เงินที่มีสภาพคล่องสูงและสเปรดต่ำ เหมาะกับนักเทรดมือใหม่ GBP/USD มีความผันผวนสูงกว่าจึงเหมาะกับการเทรดระยะสั้นช่วงข่าวเศรษฐกิจสำคัญ USD/JPY มีความสัมพันธ์กับนโยบายการเงินของ Bank of Japan และ Federal Reserve ต้องติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด USD/THB เหมาะกับนักเทรดไทยที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน

การเทรด CFD บนสินค้าโภคภัณฑ์และดัชนี

ทองคำ (XAUUSD) เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ น้ำมันดิบ (USOIL) ได้รับอิทธิพลจากอุปทาน OPEC และความต้องการพลังงานโลก ดัชนี S&P 500 สะท้อนภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ เหมาะกับการเทรดช่วง Earnings Season และนโยบายการเงิน FTSE 100 ได้รับผลกระทบจาก Brexit และนโยบายธนาคารกลางอังกฤษ ในขณะที่ SET Index เหมาะสำหรับนักเทรดที่คุ้นเคยตลาดหุ้นไทย

การฝากถอนเงินและระบบการเงิน

การฝากเงินผ่านธนาคารไทยไม่มีค่าธรรมเนียม ใช้เวลาประมวลผล 15-60 นาที ขึ้นอยู่กับธนาคารและเวลาทำรายการ การฝากผ่าน Internet Banking ของกสิกรไทย กรุงเทพ และไทยพาณิชย์ จะรวดเร็วกว่าโอนผ่านสาขา

การถอนเงินต้องใช้ช่องทางเดียวกับการฝาก เพื่อป้องกันความเสี่ยงทางการเงินตามมาตรฐาน Anti-Money Laundering ระยะเวลาการถอนผ่านธนาคารไทยอยู่ที่ 1-3 วันทำการ ส่วนการถอนผ่าน e-Wallet สามารถทำได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ยอดถอนขั้นต่ำคือ $10 ไม่มีค่าธรรมเนียมจากเรา แต่ธนาคารผู้รับอาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการโอนระหว่างประเทศ นักเทรดควรตรวจสอบอัตราค่าธรรมเนียมธนาคารของตนเอง

• รองรับ Internet Banking (กสิกรไทย กรุงเทพ ไทยพาณิชย์)
• บัตรเครดิต/เดบิต Visa และ MasterCard ที่ออกในประเทศไทย
• TrueMoney Wallet สำหรับฝากเงินรวดเร็ว
• Rabbit LINE Pay สำหรับฝากเงินผ่านแอปมือถือ
• ระบบถอนเงินรวดเร็วและปลอดภัย

เทคนิคการใช้งานแพลตฟอร์ม Exness อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อลงชื่อเข้าใช้ Personal Area ของ Exness นักเทรดสามารถจัดการบัญชีและตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน เริ่มด้วยการเลือกประเภทบัญชี กรอกข้อมูลการยืนยันตามขั้นตอน และฝากเงินผ่านช่องทางที่สะดวก

บนแพลตฟอร์ม MetaTrader นักเทรดสามารถเปิดคำสั่งซื้อขายโดยคลิกขวาที่กราฟ เลือกประเภทออเดอร์ ป้อนจำนวนล็อต และตั้งค่า Stop Loss กับ Take Profit ได้ทันที การใช้เทมเพลตช่วยให้ตั้งค่ากราฟและตัวชี้วัดได้รวดเร็วขึ้น

• ตั้งค่าการแจ้งเตือนราคาและข่าวสารผ่านมือถือ
• ใช้ฟังก์ชัน One-Click Trading เพื่อเปิดปิดออเดอร์รวดเร็ว
• ซิงค์เทมเพลตกราฟและตัวชี้วัดระหว่างอุปกรณ์
• ใช้ VPS เพื่อเทรดอัตโนมัติและลดความล่าช้า
• ตรวจสอบประวัติคำสั่งและรายงานกำไร-ขาดทุนใน Personal Area

การตั้งค่าการแจ้งเตือนและการจัดการคำสั่ง

นักเทรดสามารถตั้งค่า Push Notification เพื่อรับข่าวสารและแจ้งเตือนราคาสำคัญบนมือถือ การตั้งค่าทำได้โดยเข้าเมนู Settings ในแอปและเลือกประเภทการแจ้งเตือนที่ต้องการ

การจัดการคำสั่งทำได้ง่ายผ่านหน้าต่าง Order Management ที่สามารถแก้ไข Stop Loss, Take Profit หรือปิดคำสั่งได้ทันที ระบบรองรับการตั้งคำสั่งล่วงหน้าและแก้ไขคำสั่งได้ตามต้องการ

การสนับสนุนลูกค้าและทรัพยากรการศึกษาในประเทศไทย

Exness มีทีมสนับสนุนลูกค้าพูดภาษาไทย พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำการ ผ่านช่องทาง Live Chat, อีเมล และโทรศัพท์ นักเทรดสามารถติดต่อสอบถามปัญหาหรือขอคำแนะนำได้โดยตรง

เรามีแหล่งข้อมูลการเรียนรู้สำหรับนักเทรดไทย เช่น บทความวิเคราะห์ตลาด, วิดีโอสอนใช้งานแพลตฟอร์ม และเวิร์กช็อปออนไลน์ที่จัดขึ้นเป็นประจำเพื่อพัฒนาทักษะการเทรด

การเข้าร่วมเวิร์กช็อปและอ่านบทความช่วยให้นักเทรดในประเทศไทยเข้าใจกลยุทธ์และเครื่องมือใหม่ๆ รวมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตลาดท้องถิ่น